เปิดใจผู้เชี่ยวชาญสาว เกี่ยวกับโรคเบาหวาน ฆาตกรเงียบ

ผู้เชี่ยวชาญเตือน! ทุกๆ 6 นาที มีคนตายเพราะเบาหวาน 1 คน จากภาวะแทรกซ้อนลุกลาม จนเสียชีวิต

ก่อนหน้านี้ คุณยายของฉันป่วยหนักด้วยโรคเบาหวาน เราพยายามหาวิธีรักษาไม่ให้อาการกำเริบ แต่สุดท้าย คุณยายก็จากไปหลังป่วยได้ประมาณสามปีค่ะ

อีกห้าปีต่อมา คุณแม่ของฉันก็ป่วยด้วยโรคนี้ ตอนนั้น ฉันกำลังศึกษาเรื่องโภชนาการบำบัด จึงหันมาศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจัง แต่หลังจากนั้นไม่นาน อาการเบาหวานของคุณแม่ก็กำเริบ ฉันเสียใจมาก และตั้งใจว่า ต่อจากนี้ จะอุทิศทั้งชีวิต ศึกษาโรคนี้อย่างจริงจัง

โรคนี้ เกิดจากอาการที่ร่างกายเกิดระดับน้ำตาลในเลือดขึ้นสูงมากกว่าปกติค่ะ ความผิดปกติที่ว่านี้อยู่ในช่วงกระบวนการระหว่างที่ร่างกายกำลังเปลี่ยนน้ำตาลในเลือดให้เกิดพลังงาน แต่เซลล์ร่างกายบางชนิดไม่สามารถทำงานได้ตามเดิมเนื่องจาก ฮอร์โมนอินซูลิน ซึ่งผลิตจากตับอ่อนบกพร่อง เมื่อน้ำตาลไม่ได้ถูกใช้งานก็จะทำให้มีปริมาณสูงกว่าปกติ แล้วกลายเป็นโรคเบาหวานนั่นเอง

โรคเบาหวานจะมีทั้งหมด 4 กลุ่มใหญ่ ๆ ด้วยกันค่ะ ซึ่ง 2 กลุ่มแรกถือว่าพบได้บ่อยที่สุด คือ

1. เบาหวานชนิดที่ 1 เป็นเคสที่พบเจอบ่อยมาก เพราะการทำงานของอินซูลินผิดปกติไปจากเดิม สาเหตุจากภูมิคุ้มกันร่างกายต่อต้านการทำงานของฮอร์โมนชนิดนี้ จึงทำให้น้ำตาลไม่สามารถนำไปใช้งานได้

2. เบาหวานชนิดที่ 2 ยังเกี่ยวข้องกับอินซูลินนะคะ แต่ชนิดนี้จะเป็นภาวะที่ปริมาณอินซูลินในร่างกายลดลง หรือบางคนมีภาวะร่างกายดื้ออินซูลิน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นจากกรรมพันธุ์ค่ะ

3. เบาหวานชนิดพิเศษ กลุ่มนี้อาจเกิดโรคเบาหวานได้เพราะตนเองป่วยโรคอื่นอยู่ก่อนค่ะ เช่น โรคเกี่ยวกับตับอ่อน หรือโรคเกี่ยวข้องกับการทำงานของอินซูลินผิดปกติตั้งแต่กำเนิด

4. เบาหวานคนตั้งครรภ์ คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์อาจเป็นไปในช่วงเวลาหนึ่งนะคะ แต่หลังคลอดก็จะหายไป อย่างไรก็ตามคนที่เป็นในช่วงนี้มีโอกาสป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้ในอนาคต

สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานเองส่วนมากจะมีปัญหากับโรคแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นมากกว่าอาการหลักของโรคค่ะ ยิ่งอายุมากขึ้นเท่าไหร่โรคแทรกซ้อนเหล่านี้ก็มีสิทธิ์พรากชีวิตได้ตลอด ตัวอย่างง่าย ๆ เลย เช่น

1.ความดันโลหิตสูงจนเสี่ยงต่ออาการเส้นเลือดในสมองแตก อัมพาต พิการ

2.การเกิดบาดแผลต่าง ๆ แล้วแผลติดเชื้อลุกลามต้องตัดอวัยวะส่วนนั้นของร่างกาย

3.การเกิดต้อกระจก จอประสาทตาเสื่อมจนสุดท้ายกลายเป็นคนตาบอด

4.ไตวาย เสื่อมสภาพ

และอีกมากมาย ถ้าไม่รีบรักษาจะส่งผลร้ายหนักถึงขั้นกับชีวิต!!!

วิธีง่ายสุดต้องเริ่มจากการดูแลตนเองค่ะ การทานอาหารถือเป็นปัจจัยสำคัญมาก ใครชอบทานหวาน หรือทานอาหารดึก ๆ แล้วเข้านอน น้ำตาลที่ได้รับเข้าไปจะไม่สามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานในกระแสเลือดได้ เมื่อน้ำตาลสะสมเยอะ ฮอร์โมนอินซูลินก็ต่ำลง ทำให้เกิดโรคอย่างที่บอกไปนั่นเอง ถ้าให้แนะนำคือ ต้องเปลี่ยนพฤติกรรมของตนเองค่ะ

อีกวิธีคือ มองหาตัวช่วยจำพวกอาหารเสริมในการลดระดับน้ำตาลในเลือดดูค่ะ ถือว่าช่วยได้เยอะ เพราะอย่างที่บอกนะคะ โรคนี้มีสิทธิ์ถึงขั้นเสียชีวิตแน่ ๆ ถ้าไม่ดูแลตนเองให้ดี

หลัก ๆ เลยอยากให้เน้นที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติเป็นหลัก ผ่านการรับรองจาก อย. ค่ะ จะปลอดภัยต่อร่างกาย ซึ่งถ้าให้แนะนำผลิตภัณฑ์ เช่น ไดเฮิร์บ Diherb ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อลดน้ำตาลในเลือด ลดคอเลสเตอรอล เบาหวาน ปรับสมดุลความดันโลหิต ด้วยสารสกัดทั้งหมด 11 ชนิด ได้แก่ สารสกัดจากมะระขี้นก ฟินูกรีก โสมเกาหลี ชะเอม เสกตี่ ปักคี้ เปลือกองุ่น เกรฟฟรุ๊ต ขมิ้น ผงผักจินดา พริกไทยดำ มีใบรับรองคุณภาพ หมายเลข อย. และใบรับรองจากแล็บระดับประเทศ อันถือว่าน่าเชื่อถือมาก

หมายเลข อย. ผลิตภัณฑ์ Diherb

ใบรับรองผลิตภัณฑ์และใบประเมินคุณภาพการผลิตของโรงงาน

ที่แนะนำผลิตภัณฑ์นี้ เพราะเรียกว่าเป็นผลิตภัณฑ์คุณภาพ ที่มีสารสกัดซึ่งเป็น Active ingredients ออกฤทธิ์อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งหมด 11 ชนิดค่ะ เช่น

- มะระขี้นก เป็นสมุนไพรไทยเลื่องชื่อ ว่าช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

- ชะเอมจีน หรือชะเอมเทศ ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดด้วยสารต้านอนุมูลอิสระฟลาโวนอยด์

- เสกตี๋ หรือ โกศขี้แมว มีสรรพคุณหลากหลาย รวมถึงนำไปใช้ในโรคเบาหวานและไขมันในเลือดสูง

- ปักคี้ ลดอาการบวมน้ำ ขับปัสสาวะ ช่วยระบายพิษออกจากร่างกาย

- เปลือกองุ่น ลดการเกาะตัวของเกร็ดเลือด ลดโคเลสเตอรอล บำรุงกล้ามเนื้อหัวใจ

- เกรฟฟรุ๊ต วิตามินซีและฟลาโวนอยด์ ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคเบาหวาน

สามารถกรอกแบบฟอร์มด้านล่างได้เลยค่ะ

สุขภาพเป็นเรื่องสำคัญ อย่าละเลยมันจนสายเกินไป คิดดูซิคะ การดูแลตัวเองเพียงแค่ทานให้ถูกต้อง เปลี่ยนไลฟ์สไตล์ และการใช้ผลิตภัณฑ์ซึ่งเป็นตัวช่วยสำหรับผู้ที่ไม่สะดวกดูแลตัวเองได้ 100% วิธีง่ายๆแค่นี้ เปลี่ยนชีวิตคุณได้ ก็ถือว่าคุ้มค่าแล้วใช่ไหมล่ะคะ?